Battista Hypercar ผ่านการทดสอบความเร็วสูงที่ Nardo
Battista รถยนต์รุ่นใหม่จาก Automobili Pininfarina ผ่านการทดสอบความเร็วสูงและการทดสอบการบังคับควบคุมที่ Nardò Technical Center ในอิตาลี
– ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบแบบครอบคลุม โดยวิศวกรของ Automobili Pininfarina กำลังปรับปรุงแก้ไขคุณสมบัติทางพลศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรถ Battista รวมถึงโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกถึง 5 โหมด
– EleF จะทำให้ Battista เป็นรถสปอร์ตสัญชาติอิตาลีที่ทรงพลังที่สุดที่เคยมีการผลิตมา ด้วยเครื่องยนต์พลังแรงม้า 1,900 PS และแรงบิด 2,300 Nm
– ชมรถยนต์ต้นแบบ Battista รุ่น hyper GT ขณะขับขี่เป็นครั้งแรกได้ที่
นาร์โด, อิตาลี และตูริน, อิตาลี–3 ธ.ค.–พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Automobili Pininfarina ได้บรรลุความสำเร็จที่สำคัญยิ่งในการพัฒนารถยนต์ Battista รุ่นใหม่ เมื่อรถยนต์ hyper GT ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ได้ผ่านการทดสอบความเร็วสูงเป็นครั้งแรกที่ Nardò Technical Center ในอิตาลี
การผ่านการทดสอบครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของขั้นต่อไปในการพัฒนารถสปอร์ตสัญชาติอิตาลีที่ทรงพลังที่สุดที่เคยมีการผลิตมา ซึ่งจะมีการทดสอบและตรวจสอบทั้งหมด 9 รายการสำหรับการขับขี่รถ Battista พลังงานไฟฟ้า 100% บนถนนสาธารณะและศูนย์ทดสอบเอกชน เพื่อปรับปรุงแก้ไข ตรวจสอบ และอนุมัติโครงรถยนต์ที่มีการปรับแต่งเฉพาะ ระบบกระจายแรงบิดขั้นสูง และประสบการณ์เสียงที่เหนือชั้น
Georgios Syropoulos ผู้ขับขี่ในการทดสอบและผู้จัดการฝ่ายพลศาสตร์ยานยนต์ เป็นผู้ดำเนินการทดสอบทางพลศาสตร์ที่สนามทดสอบชื่อดังระดับโลกนี้ ทั้งการขับขี่ด้วยความเร็วสูงรอบวงแหวนขนาด 12.6 กิโลเมตรของสนาม Nardò และการขับรอบสนามการทดสอบการบังคับควบคุมที่มีความคดเคี้ยวและยาว 6.2 กิโลเมตร
Paolo Dellachà ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และวิศวกรรมของ Automobili Pininfarina กล่าวว่า “การทดสอบนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับลูกค้าของเราและทีมงานของเราที่ Automobili Pininfarina ถือเป็นความสำเร็จไปอีกขั้นในการพัฒนารถสปอร์ตอิตาลีที่ทรงพลังที่สุดที่เคยผลิตมา เราได้ดำเนินการพัฒนาอย่างครอบคลุมโดยใช้เทคโนโลยีการจำลองที่ก้าวหน้า และตอนนี้สามารถปรับปรุงแก้ไขการปรับเทียบโครงรถยนต์ที่มีการปรับแต่งเฉพาะและระบบกระจายแรงบิดแบบ 4 มอเตอร์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของรถ Battista บนถนนและสนามทดสอบ”
แบตเตอรีขนาด 120 kWh ของ Battista ให้พลังงานเครื่องยนต์ไฟฟ้า 4 มอเตอร์ แต่ละมอเตอร์สำหรับล้อแต่ละข้าง เพื่อให้มีพลังแรงม้า 1,900 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดที่ 2,300 Nm ระบบส่งกำลังที่ก้าวหน้าสามารถกระจายกำลังระหว่าง 4 ล้อได้อย่างอัจฉริยะ เพื่อป้องกันการลื่นไถลอย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกสภาพการขับขี่ และช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับประสบการณ์ขับขี่ให้เข้ากับรสนิยมของตนเองโดยใช้โหมดการขับขี่ถึง 5 โหมด (Calma, Pura, Energica, Furiosa และ Carattere)
Georgios Syropoulos ผู้ขับขี่ในการทดสอบและผู้จัดการฝ่ายพลศาสตร์ยานยนต์ของ Automobili Pininfarina กล่าวว่า “ศักยภาพสมรรถนะที่น่าทึ่งของรถ Battista เป็นที่ประจักษ์ชัดเจน ลูกค้าของเราไม่มีทางได้สัมผัสกับความสามารถในการเร่งระดับนี้มาก่อน แต่ขณะเดียวกันผู้ขับขี่ก็ยังสามารถปรับแต่งประสบการณ์ขับขี่โดยใช้โหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกมากมาย เท่ากับว่ารถ hypercar นี้ให้มากกว่าแค่ความเร็วที่น่าตื่นเต้น โดยการวิ่งแบบไม่ปล่อยไอเสียได้ถึง 500 กิโลเมตรและเทคโนโลยีขับเคลื่อนทุกล้อขั้นสูง จะทำให้ทุกการขับขี่ของรถ Battista เป็นความสุขสำราญใจ”
การทดสอบรถ Battista ตัวต้นแบบที่ Nardò Technical Center ไม่ได้ใช้เพียงรถตัวอย่างที่เปลือยเปล่า ภายใต้ผิวตัวรถที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์สุดหรู ภายในรถตกแต่งอย่างสมบูรณ์ด้วยรายละเอียดที่รังสรรค์มาอย่างหรูหรา ทำให้วิศวกรสามารถประเมินทุกองค์ประกอบของรถ hyper GT รุ่นใหม่นี้ได้อย่างละเอียดลออ
ประสบการณ์ขับขี่ที่ปรับแต่งได้
โครงรถยนต์ที่ปรับแต่งเฉพาะทำให้รถ Battista hyper GT ให้ประสบการณ์เชิงพลศาสตร์ที่ไม่ธรรมดา ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ให้เข้ากับทุกการขับขี่ ขั้นตอนการทดสอบนี้ช่วยให้วิศวกรของ Automobili Pininfarina สามารถพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้พลศาสตร์ของการขับขี่มีประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วย
– การปรับเบรก: Battista เป็นรถ hypercar ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีเบรก Brembo CCMR แบบคาร์บอนเซรามิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง การปรับระบบเบรกนี้จะมุ่งเน้นการบูรณาการการทำงานเข้ากับเบรกแบบ aerobrake ความเร็วสูงและระบบคืนพลังงานเพื่อสมรรถนะและความมั่นใจสูงสุดของผู้ขับขี่
– การกระจายแรงบิด: ระบบกระจายแรงบิดแบบ 4 มอเตอร์จะปรับเพื่อให้เข้ากับคุณสมบัติเฉพาะแบบรถ hyper GT ของ Battista เพื่อให้มีการป้องกันการลื่นไถลที่ยอดเยี่ยมและเพื่อความมั่นใจสูงสุดของผู้ขับขี่ในทุกสภาพการขับขี่ ระบบกระจายแรงบิดที่ไม่ใช้พลังงานนี้จะได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในการคืนและสลับการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างราบรื่นเพื่อระยะและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น
– การตั้งค่าโครงรถยนต์แบบปรับแต่งเฉพาะ: หลังจากการทดสอบพลศาสตร์จำลองราว 1,000 ชั่วโมง ส่วนประกอบของระบบกันสะเทือนปีกนกคู่ ล้ออะลูมิเนียมขึ้นรูป เพลาทอร์ชันบาร์ และค่าความยืดหยุ่นของเพลาที่ปรับตั้งตามหลักจลนศาสตร์ (elastokinematics) จะได้รับการประเมินและปรับปรุงแก้ไข โดยใช้ประโยชน์สูงสุดจากตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์แบบแข็งทนทานพิเศษที่เป็นชิ้นเดียวกันเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
– การตรวจสอบโหมดการขับขี่: ระบบกระจายแรงบิดที่ก้าวหน้าทำให้ Automobili Pininfarina สามารถสร้างคุณสมบัติที่โดดเด่นสำหรับแต่ละโหมดการขับขี่ได้เหนือกว่า เมื่อเทียบกับรถยนต์ระบบสันดาปภายในแบบดั้งเดิม การปรับปรุงซอฟต์แวร์และการตรวจสอบขั้นสุดท้ายสำหรับโหมดการขับขี่ทั้ง 5 โหมดของรถ Battista จะทำบนถนนและสนามทดสอบ
– การตรวจสอบยาง: ลูกค้าจะมีตัวเลือกระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ‘Prezioso’ อะลูมิเนียมขึ้นรูปขนาด 20 นิ้ว กับล้ออะลูมิเนียมขึ้นรูป ‘Impulso’ ขนาด 20 นิ้วสำหรับล้อหน้า และขนาด 21 นิ้วสำหรับล้อหลัง ซึ่งสามารถลดน้ำหนักใต้ปริง (unsprung mass) ของทุกล้อได้ 8.9 กิโลกรัม มาพร้อมยางสมรรถนะสูงตามล้อที่เลือก ได้แก่ Michelin Pilot Sport Cup 2R หรือ Pirelli P Zero โดยวิศวกรจะปรับแต่งโครงรถยนต์เพื่อให้รองรับการใช้งานแต่ละรูปแบบได้สูงสุดระหว่างการทดสอบทางพลศาสตร์
– อากาศพลศาสตร์ความเร็วสูง: หลังจากการทดสอบแบบจำลองและการทดสอบอุโมงค์ลม ดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์และคุณสมบัติทางอากาศพลศาสตร์ที่คล่องตัวของรถ Battista จะได้รับการปรับปรุงแก้ไขในการทดสอบในสนามทดสอบ เพื่อให้ลักษณะตัวรถสามารถให้เสถียรภาพเชิงอากาศพลศาสตร์และสมรรถนะสูงสุดดังที่คาดได้จากรถ hyper GT ระดับหรู
– ประสบการณ์เสียง: รถ Battista จะให้ประสบการณ์ขับขี่ที่ไม่ธรรมดาในทุกสัมผัส การพัฒนาพลศาสตร์จะช่วยให้ช่างสามารถยกระดับระบบเสียงภายในและภายนอกรถยนต์ให้เหมาะสมกับความเป็นรถ hyper GT ในทุกสภาพการขับขี่
ในการส่งมอบรถยนต์ล็อตแรกให้แก่ลูกค้าในปี 2021 รถ Battista จะสามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง (0-62 ไมล์/ชั่วโมง) ได้ในเวลาไม่ถึง 2 วินาที ซึ่งเร็วกว่ารถ Formula 1 รุ่นปัจจุบัน และจะสามารถเร่งจาก 0-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง (0-186 ไมล์ต่อชั่วโมง) ได้ในไม่ถึง 12 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง (217 ไมล์/ชั่วโมง)
ความหรูที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อ
รถยนต์ hyper GT ที่หรูหรานี้จะบูรณาการสมรรถนะที่เหนือชั้นเข้ากับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก ด้วยการร่วมมือกับผู้นำด้านการสื่อสารเชิงบูรณาการอย่างบริษัท Deutsche Telekom ความตกลงดังกล่าวช่วยให้ลูกค้าของ Battista สามารถเชื่อมต่อออนไลน์ได้ทั่วโลกโดยไม่มีการขัดข้องหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ระบบการเชื่อมต่อที่ก้าวหน้านี้รองรับเทคโนโลยี Over-The-Air ซึ่งสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ระยะไกลสำหรับโมดูลควบคุม 26 โมดูลของรถ Battista ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ระบบส่งกำลังไฟฟ้า 100% ไปจนถึงระบบแสดงผลข้อมูลและความบันเทิงของรถ นอกจากนี้เทคโนโลยีการวินิจฉัยอัจฉริยะจะคอยติดตามและตรวจสอบรถ hyper GT นี้ เพื่อตรวจจับสิ่งที่อาจเป็นปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้น เป็นการนำการเชื่อมต่อแห่งศตวรรษที่ 21 เข้าสู่อุตสาหกรรมนี้เป็นครั้งแรก
ชุดบริการดิจิทัลที่ใช้งานง่ายซึ่งมาพร้อมกับรถ Battista ทุกคัน ยังประกอบด้วยระบบชาร์จจากความร่วมมือกับ ChargePoint พร้อมวอลบ็อกซ์ซึ่งออกแบบโดย Pininfarina SpA ในสีเดียวกันกับตัวรถ
รถยนต์ Automobili Pininfarina Battista นี้ตั้งชื่อตาม Battista ‘Pinin’ Farina ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตตัวถังรถยนต์ Carrozzeria Pininfarina เมื่อปี 1930 รถยนต์ hyper GT ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% นี้เป็นการทำตามความฝันของ Battista ที่จะเห็นรถผลิตโดยใช้ชื่อ Pininfarina และเป็นรถล็อตแรกที่จะส่งมอบให้ลูกค้าในปี 2021 มีการสร้างตัวอย่างด้วยมือเป็นจำนวนไม่ถึง 150 คันในเมืองกัมเบียโน ประเทศอิตาลี ถือเป็นการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครของดีไซน์ระดับตำนานและเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
automobili-pininfarina.com/media-zone
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ
เกี่ยวกับ AUTOMOBILI PININFARINA
Automobili Pininfarina มีสำนักงานปฏิบัติการใหญ่อยู่ที่มิวนิก เยอรมนี โดยมีทีมผู้บริหารมากประสบการณ์ในด้านยานยนต์จากแบรนด์รถยนต์ระดับหรูและระดับพรีเมียม รถยนต์ Battista hypercar และรุ่นอื่น ๆ ในอนาคตจะออกแบบ พัฒนาทางวิศวกรรม และผลิตด้วยมือในอิตาลี และจะวางขายและให้บริการในทุกตลาดหลักทั่วโลกภายใต้แบรนด์ Pininfarina บริษัทแห่งใหม่นี้มุ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับหรูที่มีความยั่งยืนที่สุดในโลก
บริษัทเป็นการลงทุนของ Mahindra & Mahindra Ltd 100% และได้รับการตั้งชื่อว่า Automobili Pininfarina หลังจากการลงนามข้อตกลงเรื่องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่าง Pininfarina S.p.A. กับ Mahindra & Mahindra Ltd โดยบริษัท Pininfarina S.p.A. จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสมรรถภาพในการออกแบบและการผลิตด้วยประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาในการผลิตรถยนต์ที่มีความโดดเด่นอันดับต้น ๆ ของโลกตลอดระยะเวลา 90 ปี
Anand Mahindra ประธานบริษัท Mahindra & Mahindra; Paolo Pininfarina ประธานบริษัท Pininfarina S.p.A. และ ดร. Pawan Goenka ประธานบริษัท Mahindra Racing ได้เปิดตัวแบรนด์รถยนต์ใหม่นี้ในการแข่งขัน Rome Formula E เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2018 บริษัท Mahindra ได้สั่งสมประสบการณ์สุดล้ำในแง่ของนวัตกรรมเทคโนโลยีสมรรถนะสูงที่มีความยั่งยืนในแบบ ‘จากสนามแข่งสู่ถนน’ (race-to-road) โดยได้แข่งขันในการแข่ง Formula E ทุกครั้งมาตั้งแต่ที่การแข่งรถที่มีความเป็นนวัตกรรมที่สุดในโลกนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2013
เกี่ยวกับ PAOLO DELLACHÀ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และวิศวกรรม
Paolo Dellacha วัย 45 ปีเป็นผู้รับผิดชอบการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูที่มีความยั่งยืนรุ่นอื่น ๆ ในอนาคตของ Automobili Pininfarina ก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งระดับอาวุโสในการทดสอบ พัฒนาเชิงวิศวกรรม และออกแบบรถยนต์ที่ Ferrari, Maserati และ Alfa Romeo
เกี่ยวกับ GEORGIOS SYROPOULOS ผู้ขับขี่ในการทดสอบและวิศวกรพลศาสตร์ยานยนต์
Georgios Syropoulos วัย 40 ปีมีประสบการณ์กว่า 15 ปีในการพัฒนาและออกแบบเชิงวิศวกรรมสำหรับรถยนต์และรถสปอร์ตสมรรถนะสูงระดับหรูโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า โดยเคยทำงานกับ Lotus, Tesla, Faraday Future และอื่น ๆ